初学者学习投资名牌包包，应该如何投资？

เมื่อ 65 ปีก่อน คือในปีค.ศ. 1959 กระเป๋าชาแนลมีมูลค่าเพียง 220 เหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยจะมีราคาประมาณ 7,500 บาท เราก็สามารถที่จะซื้อชาแนลคลาสสิคมาครอบครองได้แล้วอย่างไม่ยากเย็น แต่เมื่อ Skip เวลากลับมาในปี 2019 ดูเหมือนไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เราจะซื้อกระเป๋าชาแนลสักใบในราคาเพียง 7,500 บาท ไม่ใช่เพราะแบรนด์เพิ่มราคาขึ้นในการซื้อ-ขาย แต่เป็นเพราะมูลค่าของแบรนด์สูงขึ้นในทุก ๆ ปี จึงทำให้การซื้อกระเป๋าแบรนด์ Chanel กลายเป็นการซื้อที่มากกว่ากระเป๋า เพราะเปรียบได้เสมือนการลงทุน ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าหากคุณได้ซื้อชาแนลเก็บไว้สักใบในราคา 7,500 บาท และในปัจจุบันชาแนลมีมูลค่าเฉลี่ยต่อใบโดยประมาณ 152,000 บาทไทย หากนำมาขายหรือทำการเทรดต่อคุณจะได้กำไรจากการลงทุนมากถึง 20 เท่าเลยทีเดียว

แรกเริ่มลงทุนกับกระเป๋าชาเเนลสักใบ ควรต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง

เมื่อได้ฟังตัวเลขในการเปรียบเทียบด้านบนแล้ว บางคนถึงกับตาลุกวาว มีไฟที่อยากจะลงทุนกับกระเป๋าชาแนลขึ้นมาในทันที แต่ช้าก่อน การลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบไม่ควรทำสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะยังมีหลักเกณฑ์ในการเลือกอีกยิบย่อย ที่จะช่วยทำให้การลงทุนในกระเป๋าคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น โดยจำเป็นต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ คือ

1. รุ่น

เป็นสิ่งสำคัญในอันดับแรกที่ผู้เลือกลงทุนหน้าใหม่ต้องศึกษาให้มากและให้ลึกซึ้ง ไม่แตกต่างไปจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เลยทีเดียว เพราะรุ่นในแบรนด์ Chanel มีออกมาด้วยกันหลายรุ่น หลายปี ดังนั้นยิ่งเลือกรุ่นที่เก่ามาก หายาก ก็มีแนวโน้มว่าอัตราการเพิ่มของราคาจะสูงตามในอนาคตไปด้วย แต่ถ้าหากไม่ซีเรียสกับชาแนลรุ่นคลาสสิค อยากเก็งกำไรกับรุ่นใหม่ ๆ เผื่อการเติบโตของราคาในอีก 50 ปีข้างหน้าก็ไม่ว่ากัน เพราะอัตราการเพิ่มมูลค่าของกระเป๋าแบรนด์นี้จะสูงขึ้น 6 – 9 เปอร์เซ็นต์ในทุก ๆ ปี เก็บไว้เก็งกำไรกันยาว ๆ อาจได้มูลค่าเพิ่มมาอีกหลายเท่า

1. วัสดุ

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าต้องการจะลงทุนกับรุ่นใด สิ่งต่อไปที่ต้องศึกษาคือเรื่องของ ‘วัสดุ’ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญอีกเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ห้ามพลาด เพราะวัสดุของกระเป๋าแบรนด์ Chanel ในแต่ละรุ่นผลิตจากหนังหลายแบบ หรืออาจจะมีหนังหลายออฟชั่นให้เลือก จึงควรดูด้วยว่าหนังแบบใดที่สามารถเก็บรักษาได้นาน ไม่ตกเทรนด์ง่าย ๆ และมีกระแสนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจโดยการอิงหลักคิดเหล่านี้ จะทำให้กระเป๋าชาแนลที่คุณเลือกลงทุน มีกำไรเจริญงอกงาม ไม่แพ้การเก็บออมในธนาคารเลยล่ะ

1. ราคาต้น

‘ราคาต้น’ หมายถึงราคาที่ได้กระเป๋ามาในคราวแรกว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ คุ้มทุนกับการเก็บต่อหรือซื้อมาเก็งกำไรหรือไม่ เพราะชาแนลบางรุ่นก็ไม่อาจจะหาซื้อได้แล้วในช็อป ต้องรอเทรดต่อเอาจากตลาดมือสองข้างนอกเอง ซึ่งใครโชคไม่ดีก็อาจจะเทรดหรือซื้อกระเป๋าชาแนลมือสองมาในราคาที่สูงมาก แต่ถ้าหากใครแต้มบุญดีมีส้มหล่น ก็สามารถเทรดมาได้ในราคาถูกใจหาย ราคาต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่มือใหม่หัดลงทุนควรพิจารณา เพราะบางรุ่นซื้อมาในราคาสูงติดเพดานแล้ว การเจริญงอกงามทางกำไรอาจไม่เติบโตสักเท่าไหร่ แต่ถ้าได้มาจากเงินต้นที่ราคาไม่สูงมาก หากนำไปขายต่อในราคาเท่าเดิม ผู้ซื้อก็ยังถือว่าไม่ขาดทุน กำไรใช้ ดังนั้นจึงควรเลือกบาลานซ์ราคาให้ดี การลงทุนจะได้ไม่เสียเปล่า แล้วมานั่งน้ำตาตกในทีหลัง

กระเป๋าชาแนลรุ่นใดบ้าง ที่มือใหม่หัดลงทุนควรซื้อไว้เก็งกำไร

ในความเป็นจริงแล้ว คุณสามารถเลือกลงทุนได้ในกระเป๋าทุกรุ่นจากแบรนด์ Chanel หากไม่รีบร้อน เพราะในท้ายที่สุดแล้วตัวกระเป๋าจะค่อย ๆ เพิ่มความแรร์ (Rare) ความหายาก จนกลายเป็นกำไรมาสู่ผู้ลงทุนนั่นเอง แต่ถ้าหากใครไม่มีข้อมูลเลย แล้วอยากจะรู้สโคปในการเลือกซื้อ ว่าถ้าหากต้องเลือกเก็บสักใบ ควรมีใบไหนที่ขายแล้วเงินไม่หายกำไรไม่หดแน่ ๆ คุณก็ต้องไม่พลาดที่จะผ่านตากระเป๋ารุ่นเหล่านี้

Chanel Classic Flap Bag

กระเป๋าชาแนลรุ่นที่ฮิตฮอตตลอดกาล ที่วัสดุทำจากหนังแกะและหนังวัว hardware มีทั้งแบบโลหะเงินและโลหะทอง ได้รับการพัฒนาต่อมาจาก Chanel Reissue 2.55 ที่ดีไซน์โดย โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) ซึ่งมี คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์จากแบรนด์มาออกแบบให้เป็นโฉมใหม่ทั้งหมด แรกเริ่มมีราคาตั้งต้นที่ 250 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,000 บาท และในปัจจุบันมีราคาซื้อขายอยู่ที่ 5,700 เหรียญสหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยโดยประมาณ 188,000 บาท โดยราคาออกช็อปไทยอยู่ที่ 191,000 บาท **ราคา ณ สิ้นปี 2019

Chanel Reissue 2.55 Flap Bag

กระเป๋าในตำนานของแบรนด์ Chanel ที่อาจหาไม่ได้แล้วตามท้องตลาด หรือถ้าหากหาได้จริง ๆ ก็คงอยู่ในมือของนักสะสม ซึ่งถูกผลิตในปีค.ศ. 1955 มีราคาเปิดตัวตั้งต้นที่ 220 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,500 บาทไทย แต่ปัจจุบันเทรดกันอยู่ในตลาดด้วยราคา 6,100 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 190,000 บาท โดยราคาออกช็อปไทยอยู่ที่ 213,000 บาท **ราคา ณ สิ้นปี 2019

Chanel Boy Bag

มาถึงรุ่นยอดฮิตที่สุด ณ เวลานี้ เป็นกระเป๋าใบแรกที่สาวใฝ่ฝันกันนั่นคือ Chanel Boy

สำหรับ Chanel Boy มีด้วยกันหลายรุ่น ทั้งขนาด 8″ หรือ 10″ รวมถึงสีสรรค์ต่างๆที่ทำออกมาหลากหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Classic สีดำ hardware สีทอง หรือ สีดำ hardware ดำ เรียกว่า So black และรุ่นพิเศษ rare item ของ Chanel Boy ที่ทำออกมามีหลากหลายสี คือรุ่น Chanel Boy Iridescent Rainbow Hardware มีด้วยกัน 3 สีคือ ม่วง เขียว น้ำตาล โดยราคาต่างประเทศอยู่ที่ 4,500 เหรียญสหรัฐ หรือราคาประมาณ 148,500 บาท ราคาออกช็อปไทย 156,000 บาท สำหรับราคาตลาดเทรดอยู่ที่ 6,000 เหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มราคาแรงขึ้นในทุก ๆ ปี

กระเป๋าชาแนลรุ่นหายาก rare item ของปี 2019

นอกจากรุ่นยอดนิยมที่แนะนำข้างต้นแล้ว ชาแนลยังมีกระเป๋าออกใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนทำให้ราคามือสองนอกช็อปนั้น สูงกว่าราคาในช็อปเสียอีก ด้วยจำนวนที่ผลิตออกมาจำกัด บวกกับการออกแบบดีไซด์ที่ถูกอกถูกใจสาวๆอย่างมากทำให้ไล่หาซื้อกันจนราคาตลาดพุ่งสูงลิ่วกันเลยทีเดียว

Chanel Gabrielle Hobo Bag Crocodile Embossed

สำหรับกระเป๋ารุ่นนี้ขอเรียกว่า Chanel Gabrielle Croc ที่เปิดตัวออกมากลางปี 2019 ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนวงการอย่างมาก โดยที่กระเป๋ารุ่นนี้หมดไปจากช็อปในเวลาไม่ถึง 3 นาที และใบนี้เข้ามาในไทยไม่เกิน 3 ใบต่อช็อปเท่านั้น size small ราคาออกช็อปไทยอยู่ที่ 146,500 บาท  ราคาของใหม่ unused ในประเทศไทยอยู่ที่ 190,000-200,000 บาท และราคามือสองอยู่ที่ 169,000-179,000 บาท เรียกได้ว่าราคาขึ้นไปสูงมากในเวลาอันรวดเร็ว

สุดท้ายนี้

การซื้อกระเป๋าชาแนลในราคาสูง ๆ ของผู้หญิง คนส่วนใหญ่มักมองว่าเป็นได้เพียงแค่เรื่องไร้สาระ เพราะมีแต่เอามาใช้ประดับร่างกาย หรือสนองความต้องการพื้นฐานของผู้หญิงเท่านั้น แต่เนื้อแท้ข้างในนั้นมีคุณค่ามากกว่าที่หลายคนเห็น เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมใบหนึ่งมีเรื่องราว แรงบันดาลใจ และคุณค่าเปรียบได้เสมือนกับการเก็บออมสินทรัพย์ไว้กับตัว บางรุ่นมีค่ายิ่งกว่าทองคำ เพราะคนมีเงินจะไปหาซื้อทองที่ไหนก็ได้ แต่กระเป๋าบางรุ่นต่อให้มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ หากเลือกรุ่นให้เป็นและเก็บรักษาไว้ให้ดี ในภายภาคหน้ากระเป๋าที่คนนอกทั้งหลายคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ อาจทำเงินให้ผู้ลงทุนได้มหาศาลอย่างคาดไม่ถึง