ประเภทของหนังและอะไหล่ของกระเป๋า CHANEL รุ่น Classic กระเป๋า CHANEL Classic เป็นหนึ่งในไอเท็มที่ได้รับความนิยมและคลาสสิกของแบรนด์ CHANEL และเป็นหนึ่งในรุ่นที่มีความไอคอนิกสูงสุด ด้วยดีไซน์ที่เรียบหรู เข้ากับทุกยุคทุกสมัย และความโดดเด่นของรุ่นนี้ก็คือการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ทั้งหนังและอะไหล่ ซึ่งล้วนผ่านการคัดสรรและผลิตด้วยฝีมืออันประณีต โดยประเภทของหนังและอะไหล่ที่ใช้ มีดังนี้
ประเภทของหนังที่ใช้ใน CHANEL Classic ที่มา : medisonavenuecouture
หนัง Lambskin หนังมีความนุ่ม ละเอียด และเงางาม มักมีการดูแลรักษาเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความบอบบางมากกว่าหนังชนิดอื่น
ที่มา : medisonavenuecouture
หนังลูกวัวปั๊มลาย Caviar หนังวัวที่ปั๊มลายคาเวียร์ เป็นหนังที่ทนทานมากกว่า ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี และเป็นที่นิยมเนื่องจากความแข็งแรงและความทนทาน
ที่มา : medisonavenuecouture
หนัง Exotic เป็นหนังสัตว์ที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น หนังงู หนังจระเข้ และหนังสัตว์หายากอื่นๆ ซึ่งให้ความหรูหราสูงสุด
ที่มา : medisonavenuecouture
หนัง Calfskin เป็นหนังที่มีความหนาและทนทานมากที่สุดชนิดหนึ่ง ทำให้กระเป๋าแข็งแรงและคงรูปได้ดี
ประเภทของอะไหล่ในกระเป๋า CHANEL Classic อะไหล่หรือฮาร์ดแวร์ในกระเป๋า CHANEL ส่วนใหญ่ทำจากโลหะที่มีคุณภาพสูง เช่น ทองเหลือง หรือเงิน แล้วนำไปเคลือบด้วยสารเคลือบเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและรักษาความเงางาม โดยทั่วไปจะพบอะไหล่ในกระเป๋า CHANEL Classic ดังนี้
อะไหล่สีทอง (Gold Hardware)อะไหล่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มอบความหรูหราและสง่างามให้กับกระเป๋า อะไหล่สีเงิน (Silver Hardware)ให้ลุคที่ทันสมัยและคลาสสิก อะไหล่สีรูทีเนียม (Ruthenium Hardware) อะไหล่สีเทาเข้ม ดูโมเดิร์น และมีความเท่ ความเก๋
ที่มา : mygemma
ที่มา : lifestyleasia.com
จุดเด่นของ CHANEL Classic ที่ทำให้กลายเป็นไอคอนแห่งวงการแฟชั่น CHANEL Classic หรือที่รู้จักในชื่อ CHANEL Classic Flap เป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นไอคอนของวงการแฟชั่นระดับโลก จุดเด่นของกระเป๋ารุ่นนี้มีหลายประการที่ทำให้มันกลายเป็นที่นิยมและทรงคุณค่าตลอดกาลนั้นมีจุดเด่น ดังนี้
1. การออกแบบที่หรูหราและไร้กาลเวลา กระเป๋า CHANEL Classic มีการออกแบบที่เรียบหรูและเป็นเอกลักษณ์ ตัวกระเป๋ามีลายตาราง (quilting) ซึ่งเป็นลายที่ได้รับการยอมรับและจดจำได้ง่าย ด้านหน้าเป็นตัวล็อคแบบ “CC” ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ CHANEL ซึ่งถูกออกแบบโดย Karl Lagerfeld เมื่อเขาเข้ามาทำงานกับ CHANEL ในปี 1983
2. วัสดุคุณภาพสูง CHANEL Classic ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น หนังแกะ (Lambskin) ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและหรูหรา และหนังลูกวัว (Caviar Leather) ที่มีความทนทานและดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ ยังมีการใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีคุณภาพสูง เช่น ทองคำ 24 กะรัต หรือโลหะเคลือบสีเงิน ทำให้กระเป๋ามีความทนทานและคงทนต่อการใช้งาน
3. สายสะพายที่เป็นเอกลักษณ์ สายสะพายของกระเป๋าชาแนลสะพายข้าง CHANEL Classic เป็นการผสมผสานระหว่างโซ่โลหะและหนังที่สอดผ่านห่วงโซ่ ทำให้สามารถปรับความยาวได้ตามความต้องการ โดยสามารถสะพายไหล่แบบยาวหรือสะพายแบบข้ามลำตัว (crossbody) ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายและความหลากหลายในการใช้งาน
4. ขนาดที่หลากหลาย กระเป๋ารุ่นนี้มีขนาดให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่ Mini (ขนาดประมาณ 9 x 5 x 2.3 นิ้ว), Small (ขนาดประมาณ 9.9 x 6 x 2.5 นิ้ว), Medium/Large (ขนาดประมาณ 11.7 x 7.6 x 3.9 นิ้ว), Jumbo (ขนาดประมาณ 12.9 x 9 x 3.9 นิ้ว) และ Maxi (ประมาณ 13.4 x 9.1 x 3.9 นิ้ว)
5. มูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา CHANEL Classic เป็นกระเป๋าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา เนื่องจากความนิยมและความหายาก โดยเฉพาะบางรุ่นที่เป็นสีและอะไหล่พิเศษ (Hardware) ที่เป็นที่ต้องการของนักสะสมก็จะยิ่งราคาสูง นอกจากนี้ CHANEL ยังมีการปรับราคากระเป๋าขึ้นเป็นประจำ ทำให้การลงทุนในกระเป๋ารุ่นนี้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
6. ประวัติศาสตร์และความเป็นมา กระเป๋า CHANEL Classic มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงในวงการแฟชั่น การออกแบบที่ตอบสนองความต้องการของผู้หญิงในการพกพาของได้อย่างสะดวกสบายและมีสไตล์ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้เป็นที่รักของหลายคน
ที่มา : chanel th
เจาะลึกดีเทลที่หลายคนอาจไม่รู้ เกี่ยวกับ CHANEL Classic กระเป๋า CHANEL Classic เป็นผลงานชิ้นเอกที่รวมความสง่างาม หรูหรา และการออกแบบที่ไร้กาลเวลาเอาไว้ในชิ้นเดียว รายละเอียดของกระเป๋ารุ่นนี้เป็นที่จดจำและรักใคร่ของเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั่วโลก เจาะลึกลงไปในแต่ละดีเทลของกระเป๋า CHANEL Classic จะเห็นถึงความพิถีพิถันและความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต
1. ลายตาราง (Quilting)
ลาย Quilting ที่เป็นเอกลักษณ์ของกระเป๋า CHANEL Classic ได้แรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าที่ใช้ในกิจกรรมขี่ม้าของ Coco CHANEL ลายตารางนี้ถูกออกแบบมาให้ดูหรูหราและทนทาน ตัว Quilting ทำให้กระเป๋ามีรูปลักษณ์ที่ดูนุ่มนวลและเพิ่มความคงทนในการใช้งาน หนังที่ใช้ทำลาย Quilting มีให้เลือกทั้งหนังแกะ (Lambskin) ซึ่งให้สัมผัสนุ่มนวลและละเอียดอ่อน และหนังลูกวัวปั๊มลายคาเวียร์ (Caviar Leather) ที่มีความแข็งแรงและทนต่อการขีดข่วน
2. ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
หนึ่งในดีเทลที่โดดเด่นที่สุดของกระเป๋า CHANEL Classic Flap คือตัวล็อคแบบ “CC” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นเคยและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ตัวล็อคนี้ถูกออกแบบโดย Karl Lagerfeld และกลายเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นบนกระเป๋าทุกรุ่น ฮาร์ดแวร์ของกระเป๋านี้มักทำจากโลหะคุณภาพสูงที่มีการเคลือบทองคำ 24 กะรัตหรือโลหะเคลือบสีเงิน ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความหรูหราแล้วยังมีความทนทานและไม่เป็นสนิมง่าย
3. สายสะพาย (Chain Strap)
สายสะพายของ กระเป๋าชาแนลสะพายข้าง เป็นการผสมผสานระหว่างโซ่โลหะและหนังที่สอดผ่านห่วงโซ่ ทำให้สามารถปรับความยาวได้ตามความต้องการ สายสะพายนี้ให้ความรู้สึกหรูหราและมีความหลากหลายในการใช้งาน สามารถสะพายไหล่แบบยาวหรือสะพายข้ามลำตัว (crossbody) สร้างลุคที่แตกต่างกันได้
4. ช่องภายใน (Interior)
การออกแบบภายในของกระเป๋า CHANEL Classic แสดงถึงความพิถีพิถันและการคิดถึงการใช้งานจริง ตัวกระเป๋ามีช่องหลายช่องที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ เพื่อให้สามารถจัดเก็บของได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภายในกระเป๋ามีช่องเล็กๆ สำหรับใส่ลิปสติก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่มาจาก Coco CHANEL ผู้ซึ่งต้องการพกพาลิปสติกโปรดของเธอไปด้วยทุกที่ นอกจากนี้ยังมีช่องซิปที่ถูกซ่อนอยู่ใต้ฝาปิด ที่ออกแบบมาเพื่อให้เป็นที่เก็บความลับส่วนตัว
5. ฝาปิดคู่ (Double Flap)
CHANEL Classic มีการออกแบบฝาปิดแบบคู่ ซึ่งประกอบไปด้วยฝาปิดด้านนอกและฝาปิดด้านในที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเก็บของภายในกระเป๋า ฝาปิดด้านในนี้มักจะมีโลโก้ CHANEL ปั๊มนูนและช่องใส่ของเล็กๆ ที่ใช้งานได้จริง
6. การเย็บมือ (Hand Stitching)
กระเป๋า CHANEL Classic ทุกใบถูกผลิตด้วยการเย็บมืออย่างพิถีพิถัน โดยช่างฝีมือที่มีประสบการณ์สูง การเย็บแต่ละจุดมีความแน่นหนาและประณีต ซึ่งทำให้กระเป๋ามีความทนทานและคงทนต่อการใช้งานระยะยาว
7. วัสดุหนังที่ใช้ทำ (Leather)
วัสดุหนังที่ใช้ในการผลิตกระเป๋า CHANEL Classic มีให้เลือกหลากหลายชนิด โดยหนังที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือหนังแกะ (Lambskin) ที่มีความนุ่มนวลและเป็นมันเงา และหนังลูกวัวปั๊มลายคาเวียร์ (Caviar Leather) ที่มีความแข็งแรงและทนทานมากกว่า นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุอื่นๆ เช่น หนังเมทัลลิก (Metallic Leather) และผ้าแจ็คการ์ด (Jacquard) สำหรับรุ่นพิเศษ
8. การลงตัวของสัดส่วน (Proportions)
CHANEL Classic มีการออกแบบสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตัวกระเป๋า ความกว้างของสายสะพาย หรือขนาดของตัวล็อค ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้ลงตัวและใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งยังทำให้กระเป๋ามีลุคที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะใช้ในโอกาสใด
CHANEL Classic จึงเป็นมากกว่ากระเป๋าธรรมดา แต่เป็นงานศิลปะที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความงดงาม และความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์ CHANEL ทุกดีเทลของกระเป๋ารุ่นนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้กระเป๋ารุ่นนี้เป็นไอเท็มที่เป็นที่ปรารถนาของผู้คนทั่วโลก
สร้างประสบการณ์สุดประทับใจในการช้อปปิ้ง CHANEL Classic ได้ที่ USEDBRAND88 มั่นใจในคุณภาพกับ USEDBRAND88 USEDBRAND88 คือคำตอบของคุณ ที่นี่มีกระเป๋า Limited Edition รุ่นหายาก ให้คุณได้เป็นเจ้าของ พร้อมสร้างสไตล์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เปลี่ยนทุกวันให้เป็นวันพิเศษ และสามารถฝากขายกระเป๋าแบรนด์เนม ได้ที่ @LINE : USEDBRAND88
VIDEO
How to properly store a Chanel bag part 2 by Ellie Usedbrand88
คำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับ CHANEL Classic CHANEL Classic ขนาดไหนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน?
ขนาด Medium/Large ของ CHANEL Classic ถือว่าเป็นขนาดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เพราะมีความจุเพียงพอสำหรับสิ่งของที่จำเป็น เช่น กระเป๋าสตางค์, โทรศัพท์มือถือ, และเครื่องสำอาง อีกทั้งยังมีลุคที่เหมาะสำหรับหลายสถานการณ์
ทำไมกระเป๋า CHANEL Classic ถึงถือเป็นการลงทุนที่ดี?
กระเป๋า CHANEL Classic เป็นการลงทุนที่ดีเพราะมูลค่าของมันมักเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา เนื่องจากความนิยมและความหายากของรุ่นที่ผลิตในอดีต นอกจากนี้ CHANEL ยังมีการปรับราคากระเป๋าขึ้นเป็นประจำ ทำให้กระเป๋านี้ถือเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
กระเป๋า CHANEL Classic รุ่นไหนที่มีความหายากมากที่สุด?
กระเป๋า CHANEL Classic ที่หายากมากที่สุดและราคาแพงที่สุดคือรุ่น ที่ทำจากหนัง Exotic ส่วนรุ่นที่หายากรองลงมาและมีราคาสูงคือรุ่นสีพิเศษและอะไหล่พิเศษต่างๆ เช่น Iridescent , Rainbow , So black เป็นต้น
English 
Thai 
Chinese