5 stories from the inspiration behind each Chanel bag design. What's so good about it?
กระเป๋าชาแนล เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ถือว่ากินขาดในเรื่องของดีไซน์ สามารถสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกพบให้กับผู้หญิงทุกคนได้สำเร็จตั้งแต่เมื่อ 60 ปีที่แล้ว จวบจนปัจจุบันก็ยงไม่คลายความมหัศจรรย์นั้นลงได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Chanel 2.55, Chanel Classic Flap Bag, Chanel Boy หรือ Chanel Gabrielle แต่เคยสงสัยไหมว่า อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจอยู่เบื้องหลังการดีไซน์กระเป๋าอันเป็นอมตะเหล่านี้ มีเรื่องเล่าหรือแรงจูงใจจากอะไรเหตุใดจึงได้กลายเป็นตำนาน
บางคนอาจสงสัยว่ากระเป๋าชาแนลรุ่นไหนดี อย่างที่เราทราบกันดีว่าในบรรดากระเป๋าชาแนล จะมีรุ่นยอดฮิตตลอดกาลอยู่ด้วยกันหลายรุ่น และในขณะที่บางรุ่นก็ได้ผันตัวกลายไปเป็นสินค้าคลาสสิค ที่อาจหาซื้อไม่ได้ตามช็อปแล้ว แต่ต้องรอเทรดหรือรอซื้อเป็นกระเป๋าชาแนลมือสองแทน ซึ่งอาจจะมีมูลค่าสูงลิ่ว และทำกำไรให้กับผู้ขายได้อย่างมากมายมหาศาล
อย่างไรก็ดี ดีไซน์ของกระเป๋าอันเป็นที่นิยมข้ามยุคข้ามสมัยนั้น มีเรื่องเล่าสุดอัศจรรย์ใจแค่ไหน และได้แรงบันดาลใจมาจากอะไรบ้าง เราจะขอยกกระเป๋าจากแบรนด์ Chanel 5 รุ่น เพื่อไขความพิเศษนี้ไปพร้อม ๆ กัน
1.Chanel 2.55
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1955 โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) สตรีผู้ก่อตั้งแบรนด์ชาแนลมาด้วยลำแข้งของตัวเอง ได้ฝ่าฟันกับวิกฤตกาลสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยพาแบรนด์ Chanel รอดมาได้อย่างหวุดหวิด และก่อนที่เธอจัดตัดสินใจพาแบรนด์หวนกลับคืนส่งวงการแฟชั่นอีกครั้ง
เธอทุ่มเทพลังทั้งหมดในการคิดแบบคอลเลคชั่นใหม่ และอยากให้กระเป๋าที่แต่เดิมเป็นแค่เพียงคลัทช์ (Clutch) ซึ่งเป็นกระเป๋าในลักษณะแบน ไม่มีสายหรือห่วงในการคล้องแขน ต้องอาศัยการถือติดตัวตลอดเวลา ให้เป็นกระเป๋าที่มีการใช้งานสะดวก ตอบโจทย์สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันสำหรับผู้หญิงทั่วไป เธอจึงคิดโซ่สำหรับสะพาย Cross Body ขึ้นมา ซึ่งมีอะไหล่เป็นสีทอง โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสายเอี๊ยมที่เธอจะใส่อยู่เสมอในตอนอาศัยที่โรงเรียนเด็กกำพร้า กลายมาเป็นกระเป๋า Chanel 2.55 ที่มีสายสะพายรุ่นแรก และเป็นจุด Unique จุดสำคัญ ให้กับกระเป๋าชาแนลรุ่นอื่น ๆ ในเวลาต่อมา
2.Chanel Classic Flap Bag
หากละเลยรุ่นนี้ไปก็คงจะไม่ได้ เพราะ Chanel Classic Flap Bag เป็นอีกหนึ่งในไอเทมที่หญิงสาวหลายคนอยากจะมีไว้ครอบครองสักใบ ไม่ใช่แต่เพียงความงดงามของตัวกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงมูลค่าของกระเป๋าเองที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี นำไปเทรดต่อเมื่อไหร่ก็ไม่มีขาดทุน โดยกระเป๋าใบนี้ก็ยังเป็นผลงานการดีไซน์จาก คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) เจ้าพ่อแห่งแบรนด์ชาแนลคนเดิม เพิ่มเติมคือใบนี้เป็นใบแรกที่ปู่คาร์ลเริ่มดีไซน์ให้ชาแนล หลังจากที่เขาเพิ่งเข้ามาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ได้ไม่นาน
เอกลักษณ์ที่พิเศษจนเราติดตามาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ สัญลักษณ์ที่เป็นตัว CC ไขว้กันตรงกลางกระเป๋า ซึ่งจะแตกต่างจากรุ่น 2.55 ที่เป็นในลักษณะตัวล็อคเฉย ๆ เพราะคาร์ลอยากจะทำสัญลักษณ์บางอย่างในการระลึกถึงเจ้าของแบรนด์ที่จากไปอย่าง โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) นั่นเอง ซึ่งตัวกระเป๋าชาแนลรุ่นนี้เริ่มผลิตครั้งแรกในปี 1980
3.Chanel Clutch
ในปีค.ศ. 1929 โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) เพิ่งเริ่มก่อตั้งแบรนด์ได้ไม่นาน และเธอมีไลฟ์สไตล์ในการแต่งตัวอันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีนิสัยติดบุหรี่เป็นอย่างมาก เธอจึงรู้สึกอึดอัดใจทุกครั้งที่ยามเธอจะจุดบุหรี่สูบ มักจะเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น เนื่องด้วยกระเป๋าไม่เอื้ออำนวย เธอจึงตัดสินใจดีไซน์กระเป๋าคลัทช์ขึ้นมา ซึ่งมีลักษณะเป็นกระเป๋าทรงแบน ๆ ไม่มีสายผูกติด แต่สามารถหนีบไว้ที่แขนได้ ช่วยขจัดปัญหายามที่เธอจะจุดบุหรี่สูบได้เป็นอย่างดี
นับแต่วันนั้น Chanel Clutch กลายเป็นกระเป๋าที่ได้รับความนิยมอยู่ทุกหัวระแหงของถนนสายแฟชั่น เพราะเป็นกระเป๋าทรงแปลกใหม่ ที่สตรีไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน อีกทั้งยังมีความเก๋ไม่ซ้ำใคร จึงทำให้กระเป๋าชาแนลคลัทช์ กลายเป็นต้นกำเนิดแห่งตำนานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในรุ่นใหม่ๆที่มีการผลิตขึ้นภายหลัง ได้มีการประยุกต์ใส่สายโซ่เพิ่มเข้าไปเพื่อความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น
แรงบันดาลใจจากดีไซน์มหัศจรรย์ ในกระเป๋าชาแนลหลังปี 2010
4.Chanel Gabrielle
แม้จะยังไม่ใช่รุ่นในตำนานเหมือน Chanel 2.55 แต่ก็ถือได้ว่าเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่มาแรงแซงทางโค้งมาก ๆ กับรุ่น Gabrielle ที่ดีไซน์โดย คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์จากแบรนด์ Chanel ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Augment Reality Glasses เป็นการผสานโลกในจินตนาการและโลกเสมือนจริงไว้ด้วยกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคาร์ลเองยอมรับว่าเขามีบางส่วนที่เหมือนกันกับโคโค่ นั่นก็คือความคิดที่อยากจะให้บุรุษและสตรีมีความเท่าเทียมกัน บ่อยครั้งตัวเขาเองและโคโค่จึงมักจะหยิบลูกเล่นตรงนี้ มาดัดแปลงเป็นแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในรุ่น Gabrielle เองก็เช่นกัน ที่เขาอยากให้กระเป๋าใส่กล้องส่องทางไกลของผู้ชาย กลายเป็นแฟชั่นงาม ๆ บนตัวของสตรีทุกคนทั่วโลก
Chanel Gabrielle เปิดตัวในปี 2017 หลังรุ่น Chanel Boy แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เนื่องจากมีหลายแบบให้เลือกซื้อ อีกทั้งฟังก์ชันการใช้งานยังครบครัน สายแฟชั่นหลายคนยกให้กระเป๋าชาแนลรุ่นนี้เป็นกระเป๋าที่ใช้งานได้จริงและตอบโจทย์ในชีวิตประตำวันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
5.Chanel Boy
กระเป๋าชาแนลรุ่น Boy เปิดตัวครั้งแรกในงานแฟชั่นโชว์ช่วง Summer ปี 2011 ที่แม้จะมาเป็นรุ่นน้อง แต่กลับกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง จนแฟน ๆ ชาแนลเทให้ทั้งใจไม่มีกั้ก เพราะเป็นกระเป๋าที่ฉีกกฏการดีไซน์เก่า ๆ ของแบรนด์ Chanel แทบจะทั้งหมด อีกทั้งยังมีให้เลือกหลายไซส์ ดีไซน์โดย คาร์ล ลาเกอร์เฟล (Karl Lagerfeld) ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากมาดามโคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) กับอดีตคนรักของเธอ
ครั้งหนึ่งก่อนแบรนด์ชาแนลจะดังเป็นพรุแตก โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) มีบุรุษคู่รักอยู่นายหนึ่งนามว่า Boy Chapel (บอย ชาเปล) ทั้งคู่มักจะออกไปตีโปโลด้วยกันอยู่เป็นประจำ คาร์ลคิดว่านี่คือรักที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของมาดามโคโค่ นอกเหนือจากนั้น Boy Chapel ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้แบรนด์ชาแนลเกิดขึ้นมา เขาจึงได้นำชื่อว่า Boy มาตั้งเป็นชื่อรุ่นในกระเป๋าคอลเลคชั่นนี้ โดยยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมในการนึกถึงเครื่องประดับของบุรุษ จึงมีแรงบันดาลใจอีกส่วนหนึ่งก็จากกระเป๋าเก็บกระสุนปืนของบุรุษนั่นเอง
สำหรับในท้ายที่สุดนี้
เรื่องเล่าสู่แรงบันดาลในใจการดีไซน์กระเป๋าชาแนลที่เรายกมาในวันนี้ เป็นเพียงแค่บางรุ่นเท่านั้นที่ได้รับความนิยมตลอดกาล แต่แน่นอนว่ายังมีอีกหลายรุ่นมาก ๆ ที่เต็มไปด้วย Story และที่มาอันน่าสนใจ แสดงให้เห็นแล้วว่าในทุกการดีไซน์ล้วนมาจากจินตนาการ อุดมคติ และสิ่งที่พบเจอในชีวิตประจำวัน สิ่งเหล่านี้คงเป็นเอกลักษณ์ที่ผู้เสพแบรนด์หรือผู้ใช้สามารถสัมผัสถึงความตั้งใจของผู้ดีไซน์ได้ ซึ่งนี่เองที่เป็นกุญแจลับสุดยอด ทำให้กระเป๋าจากแบรนด์ Chanel อยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงปัจจุบันนี้ และจะเป็นตำนานต่อไปไม่รู้จบอย่างแน่นอน